ช่วงนี้ใกล้จะสิ้นปีแล้ว หลายคนคงมีแพลนจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน ยุโรป ออสเตรเลีย ประเทศส่วนมากในโลกนี้มีอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นกว่าบ้านเราซึ่งเริ่มจากปลายเดือนกันยายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม (บางประเทศอาจมีฤดูหนาวที่ต่างจากนี้ไปบ้าง เช่น ออสเตรเลีย)
ความหนาวเย็นของอากาศจะแตกต่างกันไปตามแต่ละเดือน และนักท่องเที่ยวอย่างเราก็ควรจะต้องเตรียมเสื้อผ้าโดยเฉพาะอุปกรณ์กันหนาวให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ
วันนี้ BKK Travel มีทริคการแต่งตัวมาฝากสำหรับคนที่สงสัยว่า อุณหภูมิเท่าไร ควรจะแต่งกายแบบไหนดีนะ?
เริ่มที่อุณหภูมิ 15 – 20 องศาเซลเซียส หรือประมาณช่วงฤดูหนาวโดยเฉลี่ยในไทย
ส่วนมากจะใส่เสื้อแขนยาวที่เป็นผ้าหนากว่าเสื้อทั่วไป และใส่กางเกงขายาวตามปกติ ถ้าใครขี้หนาวหน่อยก็ใส่เสื้อกันหนาวแบบไม่หนามากคลุมอีกที
แต่ถ้าเป็นคนขี้ร้อนก็อาจจะใส่เสื้อแขนสั้นกางเกงขาสั้นแบบปกติเลยก็ได้ค่ะ
อุณหภูมิ 10 – 15 องศาเซลเซียส หรืออุณหภูมิประมาณช่วงหน้าหนาวของภาคเหนือหรืออีสานในตอนกลางวัน
ถ้าไม่ใช่คนขี้หนาวก็ใส่เสื้อแขนสั้นหรือแขนยาวกับกางเกงขายาว แล้วมีแจ็คเกตคลุมทับอีกที
ถ้าเป็นคนขี้หนาวก็ควรเลือกใส่เป็นเสื้อไหมพรมก่อนสวมแจ็คเกตทับอีกที และควรพันผ้าพันคอและสวมถุงเท้าเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้มากขึ้น
ผ้าพันคอที่นิยมใช้ในอากาศหนาวได้แก่ ผ้าพันคอถักไหมพรม ผ้าพันคอจากขนแกะเมอริโน่ ผ้าพันคอจากผ้าแคชเมียร์
อุณหภูมิ 5 – 10 องศาเซลเซียส หรืออุณหภูมิประมาณขึ้นดอยสูงๆ ช่วงเช้าตรู่
โดยปกติจะใส่เสื้อไหมพรมก่อนสวมทับด้วยเสื้อโค้ตผ้าขนสัตว์ และตามด้วยผ้าพันคอ
ถ้าขี้หนาวหน่อยก็แนะนำให้ใส่เสื้อฮีทเทคด้านในอีกที และใส่กางเกงกันหนาวที่บุขนสัตว์นุ่มๆ ไว้ด้านใน นอกจากนี้การเลือกใส่ถุงเท้าหนาและรองเท้าบูตหนาๆ ก็จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นมากขึ้น หากมีลมแรงจะยิ่งทำให้รู้สึกหนาวมากขึ้นอีก ฉะนั้นควรพกหมวกไหมพรมติดตัวไว้ด้วยนะคะ
เสื้อสเวตเตอร์ (sweater) คือเสื้อถักไหมพรมชนิดสวมทางศีรษะเหมือนเสื้อยืด นิยมใส่ทับเสื้อตัวอื่นอีกที หากเป็นชนิดติดกระดุมหน้าจะเรียกว่าคาร์ดิแกน (cardigan) ราคาขึ้นกับวัตถุดิบที่ใช้และลวดลายในการถัก ที่นิยมกันคือชนิดทำจากขนสัตว์ แต่ถ้าไม่หนาวมากจะใช้เสื้อถักจากผ้าฝ้ายก็ได้ สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป
รองเท้าบูต (boots) หากไปที่ที่มีอากาศหนาวจนรองเท้าผ้าใบธรรมดาเอาไม่อยู่ แนะนำให้เลือกรองเท้าบูตแทน โดยจะเลือกเป็นบูตหนังหรือบูตบุขนสัตว์ด้านในก็ได้ แต่ถ้าจะไปในประเทศที่มีหิมะ ควรเลือกบูตที่พื้นและส้นรองเท้าสามารถยึดเกาะได้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้ลื่นล้ม และควรเลือกชนิดที่ผิวนอกของรองเท้าสามารถกันน้ำได้ด้วย อาจเลือกเป็นบูตที่ด้านนอกเป็นหนังแต่ด้านในบุขนสัตว์ก็ได้ รุ่นที่ป้องกันความหนาวได้ดี พื้นไม่ลื่น และด้านในนุ่มใส่เดินสบาย
ฮีทเทค (heattech) คือเทคโนโลยีการผลิตเสื้อผ้าที่ช่วยให้อบอุ่นอยู่เสมอ มีทั้งเสื้อตัวในและกางเกงตัวในแบบฮีทเทค สำหรับใส่ไว้ใต้เสื้อผ้าปกติ เนื้อผ้านุ่มลื่น บาง แต่กักเก็บความร้อนได้ดี ควรเลือกขนาดที่พอดีกับตัว ก่อนซื้ออย่าลืมตรวจสอบด้วยว่า ชนิดที่ซื้อเป็นแบบระบายเหงื่อหรือไม่ เพราะไม่อย่างนั้น เวลาอยู่ในที่ร่ม เหงื่ออาจจะท่วมตัวเลยก็ได้
อุณหภูมิ 0 – 5 องศาเซลเซียส
หรืออุณหภูมิบนยอดดอยตอนที่มักเกิดแม้คะนิ้งบริเวณผิวดิน (แต่บริเวณใกล้ผิวดินมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส) ระดับนี้แนะนำให้สวมเสื้อผ้าหลายๆ ชั้นเลยค่ะ ไม่ว่าจะเสื้อฮีทเทค เสื้อไหมพรม เสื้อโค้ตผ้าขนสัตว์ หมวก ถุงมือ และกางเกงบุขนด้านใน แต่ถ้าขี้หนาวมากก็ควรสวมลองจอห์นข้างในอีกชั้น รวมถึงสวมกางเกงฮีทเทคก่อนสวมกางเกงกันหนาว ผ้าพันคอและถุงเท้า หากไปที่ที่มีลมแรงก็ควรมีผ้าปิดหน้าและที่ปิดหูด้วย ไม่งั้นจะหน้าชาได้
ถุงมือ (glove) ส่วนมากนิยมถุงมือกันหนาวที่ผลิตจากผ้าสักหลาด ไหมพรมทัก ขนสัตว์ หรือหนัง โดยปกตินิยมใส่แบบแยกนิ้ว 5 นิ้วเพื่อความสะดวกในการหยิบจับสิ่งของ แต่ก็มีถุงมือแบบแยกเพียงนิ้วโป้งกับ 4 นิ้วที่เหลือ แบบนี้จะเรียกว่า mitten ปัจจุบันมีถุงมือที่ออกแบบให้ตอบโจทย์สมัยใหม่มากขึ้น เช่นถุงมือชนิดเปิดปลายนิ้วเพื่อให้ใช้โทรศัพท์ได้สะดวก หรือถุงมือที่เย็บบริเวณปลายนิ้วด้วยวัตถุดิบที่ทำให้สามารถใช้โทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องถอดถุงมือ
ที่ปิดหู (earmuffs) เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยในที่ที่มีอากาศหนาว มีลักษณะเหมือนหูฟังประเภทครอบหู มีทั้งชนิดสวมคาดศีรษะด้านบนแบบที่คาดผม และชนิดคาดด้านหลังศีรษะเกือบจะถึงท้ายทอย หากอากาศไม่หนาวมากสามารถใช้รุ่นที่ใช้ผ้าหุ้มบริเวณหูได้ แต่ถ้าหนาวมากแนะนำให้ใช้รุ่นที่บุขนสัตว์บริเวณหู สามารถหาซื้อได้ตามร้านเสื้อผ้าแฟชั่นทั่วไป หรือร้านขายอุปกรณ์กันหนาวโดยเฉพาะ ราคาแตกต่างกันไปตามคุณภาพและความนุ่มสบายขณะสวมใส่
บริษัทพลัสส์ (กรุงเทพ) จำกัด เลขที่ 259/68 หมู่บ้านเฌอคูน ถ.สวนผัก แขวง/เขต ตลิ่งชัน กทม 10170